***ยินดีต้อนรับเข้าสู้เว็บไซต์การเรียนการสอน วิชา เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น 2204-2003***

 

หน่วยที่ 3
ประเภทของเครือข่าย


เนื้อหาสาระ
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Neพor) หมายถึง เครือข่ายการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์
ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไป ที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ มีการชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ในเครือข่ายโดยใช้สื่อที่เป็นสายหรือสื่อแบบไร้สายการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือชยคอมพิวเตอร์มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มความสามารถของระบบคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้นและลดต้นทุนของระบบคอมพิวเตอร์โดยรวมลง ซึ่งการโอนย้ายข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายจะทำให้ระบบมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น มีการแบ่งการใช้ทรัพยากร เช่น หน่วยประมวลผล หนยความจำหน่วยจัดก็บข้อมูลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีราคาแพงและไม่สามารถจัดหามาให้ทุกคนได้ ทำให้ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายค้นทรัพยากรของระบบคอมพิวเตอร์ลงได้

3.1 เครือข่ายแลน (LAN)
ปัจจุบันองค์กรต่างๆมีการใช้ระบบเครืข่ายคอมพิวเตอร์ข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจเพื่อติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารร่วมกันทำให้สามารถลดต้นทุนทางค้นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถของระบบให้สูงขึ้น ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม สามารถทำงานพร้อมกัน ใช้ข้อมูลต่าง ๆ ร่วมกัน ทำให้องค์กรดรับประโยชน์มากขึ้นสามารถใช้อุปกรณ์ได้คุ้มค่ายิ่งขึ้นเครือข่ายแลนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ภายในองศ์กรต่างๆ ทั้งกาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นด้นธุรกิจด้านอุตสาหกรรม ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข และด้านการเงิน
3.1.1 ความหมายของเครือข่ายแลน
เครือข่ายแลน (LAN) มาจากคำว่า Local Area Network หมายถึง ระบบเครือข่ายที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ในลักษณะเป็นกลุ่มขนาดเล็ก โดยมีการติดตั้งและใช้งานในบริเวณใกล้เคียงกัน เช่น ภายในแผนกเดียวกัน ภายในสำนักงานเดียวกัน ภายในอาคารเดียวกันหรือระหว่างอาคารที่อยู่ห่างไกลกันไม่มาก เช่น เครือข่ายภายในสถานศึกษา เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน เครือข่ายแลนถูกจำกัดด้วยขนาดและระยะทาง ที่สมารถใช้อุปกรณ์ทวนสัญญาณได้ไม่กิน 4 ตัว ทำให้มีความยาวของการเชื่อมต่อทั้งหมดไม่กิน 92ร แตร ดังนั้นหากต้องการเชื่อมต่อเครือข่ายในระยะทางที่ไกลกว่านี้ จึงไม่สามารถใช้เทคโนโลยีเครือข่ายแลนได้

3.1.2 องค์ประกอบของเครือข่ายแลน
การเชื่อมต่อเครือข่ายแลน ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ส่วน คือ
1. ฮาร์ดแวร์ (Hardพare) เป็นส่วนประกอบของเครื่อข่ายที่สามารถมองเห็นหรือจับต้อง กับส
2.ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึงชุดโปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานเครื่องคอมพิวเตอร์
3.1.3 ประเภทของเครือข่ายแลน
          เครือข่ายแลนสามารถแบ่งตามการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ เครือข่ายแลนแบบไคลเอน
เซิร์ฟเวอร์ (ClientSever และเครือข่ายแลนแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer-to-Peer)

3.1.4 มาตรฐานเครือข่ายแลน
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายแลนมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สามารถสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้และถ้ามีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อมีจำนวนมากก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้น ผู้พัฒนาจึงต้องหาวิธีการและเทคนิคในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ทำให้การเชื่อมต่อเครือข่ายง่ายขึ้น โดยมีการกำหนดเทคโนโลยีที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลภายในเครือข่ายแลนออกมาหลายมาตรฐาน แต่ละมาตรฐานมีข้อกำหนดฉพาะที่จะบ่งบอกลักษณะรูปแบบของข้อมูล คุณสมบัติทางการเชื่อมต่อต่าง ๆ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้ผู้ผลิตและผู้พัฒนาต้องสร้างให้สามารถใช้งานร่วมกันสื่อสารระหว่างกันได้หน่วยงาน EEE ได้จัดตั้งโครงการเพื่อกำหนดมาตรฐานกลางที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายแลนซื่อว่าโครงการ802 มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดมาตรฐานอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบเครือข่ายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากอุปกรณ์เครือข่ายผลิตจากโรงงานผู้ผลิตที่ตกต่างกัน นอกจากนั้นโครงการ 802 ยังประกอบด้วยโครงการย่อยเพื่อใช้กำหนดมาตรฐานเครือข่ายแลนแต่ละประเภท

3.1.5 การประยุกต์ใช้งานเครือข่ายแลน
องค์กรส่วนใหญ่จะติดตั้งเครือชยแลนเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงานหรือดำเนินธุรกรรมผ่านระบบเครือข่ายดังนั้นจึงสามารถนำเครือข่ายแลนไปประยุกต์ใช้งานในด้านต่างๆ

3.2 โทเค็น (Token)
โทเค็นเป็นแพ็กเก็ตของข้อมูลที่เดินทางไปรอบเครือข่ายแบบโทเค็น ที่เดินทางวนไปตามโหนดต่าง
บนครือข่าย เพื่อให้โหนดที่ต้องกาส่งข้อมูลฝกขอมูลปยังโหนดผู้รับ กาส่งผ่านโทเห็นเป็นกลไกควบคุมการรับส่งข้อมูลเพื่อไม่ให้เกิดการชนกันของฟรมข้อมูล โดยโทเค็นมีลักษณะเป็นฟรมขนาดเล็กที่ถูกส่งไปยังแตะสถนีในลักษณะเรียนไปเป็นตามลำดับที่ได้ออกแบบไว้ สถานีใดที่ได้รับโทเด็นจะมีสิทธิในกาส
ข้อมูลหนึ่งฟรมหรือมากว่าหนึ่งเฟรมจนกว่าข้อมูลที่งหมด จากนั้นจึงจะปล่อยโทเด็นให้สถานีอื่นที่ยุถัดไป
3.2.1 โทเด็นบัส
โทเด็นบัส (Token Bus) เป็นเครือข่ายแลนตามมาตรฐาน EEE 802.4 ที่ใช้สายโคแอคเซียล
เป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูล ด้วยอัตราความเร็วหลายระดับ คือ 1 Mbps 5 Mbps หรือ 10 Mbps โดยไม่
โทโพโลยีการชื่อมต่อแบบบัส และใช้วิธีการใช้ใช้ตัวกลางโดยการส่งผ่านโทเด็น ซึ่งแต่ละสถานีในเครือข่ายจะทราบที่อยู่ของสถานีที่อยู่ทางซ้ายและขวาของตัวเอง โดยสถานีที่มีดที่อยู่สูงสุดจะสามารถส่งเฟรมข้อมูลได้ และเมื่อส่งเฟรมข้อมูลแล้วสถานีนั้นจะปล่อยโทเด็นให้กับสถานีที่มีคู่อยู่รองลงไป โดยการโทเด็นเข้าไปในตัวกลางและระบุคที่อยู่ปลายทางเป็นสถานีต่อไป สถานีที่ได้รับโทเค็นจะสามารถส่งข้อมูล

3.2.2 โทเด็นริง
โทเด็นริง (Token Ring) เป็นเครือข่ายแลนตามมาตรฐาน EEE 802.5 พัฒนาโดยบริษัทไอบีเอ็ม (BM) ใช้โทโพโลยีการเชื่อมต่อแบบดาว โดยมีอุปกรณ์ศูนย์กลางที่เรียกว่า MSAU (Mut-StationAccess Unit) ใช้วิธีการเข้าใช้ตัวกลางโดยการส่งผ่านโทเด็นในสมัยก่อนโทเด็นริงได้รับความนิยมอย่างมากเพราะการเชื่อมต่อแบบโทเด็นริงไม่ทำให้เกิดการชนกันของข้อมูลในเครือข่าย แต่มีอัตราการส่งข้อมูลต่ำ จึงไม่ได้รับความนิยมเท่ากับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

3.3 เครือข่าย FDDI
เครือข่าย FDDI (Fiber Distributed Data Interface) เป็นเครือข่ายแลนที่พัฒนาโดยองค์กรกำหนด
มาตรฐานของสหรัฐอมริกา ANSI (America National Standard Insitute) เพื่อนำมาใช้เป็นเครือข่ายหลัก
สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอื่น  เป็นเครือข่ายที่มีอัตราเร็ว 100 Mbps ขึ้นไปใช้สายใยแก้วนำแสงเป็นตัวลางในการับส่งข้อมูล โดยการส่งผ่านโทเด็นตามมาตรฐาน IEEE 82.5 สามารถรับส่งข้อมูลระยะทางได้ไกลถึง 200 กิโลมตร และถ้าใช้ตัวกลางเป็นสาย บTP จะเรียกเครือข่ายชนิดนี้ว่าCDDI (Copper Distributed Data Interface)เครือข่าย FDD! มีการเชื่อมต่อโดยใช้โทโพโลยีแบบวงแหวน โดยมีเส้นทางการส่งข้อมูลเป็นวงแหวน2วงที่ส่งข้อมูลสวนทางกัน คือ วงแหวนหลัก (Pimary Ring) และวงแหวนรอง (Secondary Ring) ที่ใช้เป็นเส้นหวงสำรองเมื่อวงแหวนหลักใช้งานไม่ได้ โดยวงแหวนหนึ่งจะรับส่งข้อมูลนทิศทางตามเข็มนาฬิกาและอีกวงแหวนหนึ่งจะรับส่งข้อมูลในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา

3.4 เครือข่าย ATM
เครือข่าย ATM (Asynchronous Transfer Mode) เป็นเครือข่ายที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีการสูงข้อมูลแบบใหม่เพื่อตอบสนองในด้นความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลเครือข่าย ATM ประยุกต์ได้หลายรูปแบบทั้งแN หรือพN ใช้กับตัวกลางได้ทั้งแบบลวดทองแดงหรือสายใยแก้วนำแสง เครือชย ATทเป็นเครือข่ายที่ประยุกต์ได้หลายรูปแบบทั้งแบบN หรือพN ใช้ได้กับตัวกลางแบบลวดทองแดงหรือสายใยแก้วนำแสง แต่โครงสร้างการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโหนดเป็นแบบสวิตซ์ที่เรียกว่า ATM Switchการส่งผ่านข้อมูลแต่ละเชลจึงขึ้นกับแอดเดรสที่กำหนด
3.5 เครือข่ายแลนเสมือน
เครือข่ายแลนเสมือนหรือ VAN (Virtual Area Network) หมายถึง เครือข่ายแลนจำลองย่อยที่ถูกสร้างภายใต้เครือข่ายแลนจริง เพื่อทำให้กลุ่มของคอผิวตอร์ละอุปกรณ์สามารถเชื่อมโยงกันเป็นกลุ่มย่อยภายใต้ระเบียบการทำงานและนโยบายด้านการักษาความปลอดภัยเดียวกัน เครือข่ายแลนเสมือนถูก

เครือข่ายแวน (WAN) 3.6
เครือข่ายแวน หรือ WAN (Wide Area Network) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย
แลนที่อยู่ห่างไกลกัน และไม่สามารถเชื่อมต่อกันโดยใช้เทคโนโลยี LAN ระยะทางเป็นข้อจำกัดในการออกแบบเครืข่าย WAN เพราะเมื่อต้องส่งข้อมูลไปไกลๆ กำลังของสัญญาณก็จะอ่อนลงซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูล

3.7 เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต (internet มาจากคำว่า Interconnection Network เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก โดยมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นแบบเดียวกันผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนข่าวสารได้อย่างอิสระโดยที่ระยะทางและเวลาไม่มีผลต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นในระดับบุคคล องค์กรธุรกิจมหาวิทยาลัย และหน่วยงานรัฐบาล อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่มีความปลอดภัยค่อนข้างน้อยเนื่องจากผู้ใช้งานทุกคนสามารถเช้าถึงข้อมูลทุกอย่างที่แลกเปลี่ยนผ่านอินเทอร์เน็ตได้

3.8 VPN
VPN (Virtual Private Network) หมายถึง เครือข่ายเสมือนส่วนตัวที่ทำงานโดยใช้โครงสร้างของเครือข่ายสาธารณะหรือจะวิ่งบนเครือข่ายไอพี่ก็ได้แต่ยังสามารถคงความเป็นเครือข่ายเฉพาะขององค์กรด้วยการเข้ารหัสข้อมูลก่อนส่งเพื่อให้ข้อมูลมีความปลอดภัยมากขึ้นVPN ถูกนำมาใช้กับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีสาขาอยู่ตามที่ต่างๆ และต้องการต่อเชื่อมเข้าหากัน โตยังคงสามารถรักษาเครือข่ายให้ใช้ได้เฉพาะคนภายในองค์กรหรือคนที่เกี่ยวข้องด้วยเทคโนโลยี ขPง จะทำการเชื่อมต่อองค์ประกอบข้อมูลและทรัพยากรต่างๆ ของระบบเครือข่ายหนึ่งให้ข้ากับระบบเครือข่ายหนึ่ง คิวโดยจะให้ผู้ใช้งานสร้างท่ออุโมงค์เสมือนเพื่อใช้ในการส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือการใช้งานอินเทอร์เน็ต

 

 

 

 

จำนวนผู้เข้าชม