ผู้เข้าชม :
 
ประวัติ

อำเภอสตึกแต่ก่อนมีสภาพเป็นป่าดงดิบอุดมไปด้วยน้ำ มีประชากรส่วนหนึ่งมาตั้งรกรากพูดภาษาเขมร และเรียกป่าดงดิบนี้ว่า หมู่บ้านน้ำ แต่เดิมอำเภอสตึกเป็นเพียงตำบลหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อมีราษฎรอพยพมาจากที่อื่นมาตั้งรกรากมากขึ้น ทางราชการจึงยกฐานะประกาศ ตั้งเป็นกิ่งอำเภอ เมื่อ พ.ศ. 2490 เดิมสภาพที่ว่าการอำเภอเป็นเรือนไม้สองชั้น ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2519 ตัวอาคารถูกเพลิงไหม้และได้รับการก่อสร้างขึ้นใหม่เป็นอาคารตึกสองชั้นจนถึงปัจจุบัน
อำเภอสตึก ชื่อ สตึก มาจากภาษาเขมรแปลว่า น้ำ (สเราะ + ตึก / เมือง + น้ำ) หมายถึง เมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ สมดับมีม้ำมูลกับลำน้ำชีไหลผ่าน

อำเภอสตึกแบ่งการปกครองออกเป็น 12 ตำบล 179 หมู่บ้าน แยกเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล 12 แห่ง เทศบาลตำบล 1 แห่ง นายกเทศมนตรีมาจากการเลือกตั้ง มีประชากรทั้งสิ้น 98,816 คน (ข้อมูลวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552) กลุ่มชนพื้นบ้านของอำเภอสตึกมีทั้งไทยส่วย ไทยเขมร และไทยอิสาณ ประชากรในอำเภอสตึกร้อยละ 80 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ ทำนา ทำสวน ทำไร พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของอำเภอสตึก ได้แก่ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ปอ งา และยางพารา ด้านการประมงน้ำจืด ชาวบ้านที่พักพิงริมน้ำมูลจะทำการประมงทั้งการจับปลาในแหล่งน้ำและการเลี้ยงปลาในกระชังจากนั้นก็นำผลผลิตที่ได้ส่งขายตามตลาดที่ต้องการ อาชีพที่เสริมรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งก็คือ สินค้าหัตถกรรม ในเขตเทศบาลตำบลสตึกเป็นชุมชนที่หนาแน่นจึงมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าต่างๆมีตลาดสดขนาดใหญ่ โดยมีราษฎรจากอำเภอใหล้เคียงมาเลือกซื้อสินค้า ผลิตผลทางการเกษตรและการประมงตลอดทั้งวันทั้งคืน พอตกบ่ายใกล้เวลาเย็นพ่อค้าแม่ขายต่างทยอยนำสินค้าของตนเอง ทั้งอาหารการกิน สินค้าเบ็ดเตล็ดมาวางขายที่ตลาดไนท์บาร์ซ่า บริเวณคิวรถอำเภอสตึกจากการเติบโตของธุรกิจจึงมีธนาคารพาณิชย์ถึง 6 แห่ง โรงสีไฟขนาดใหญ่ ศูนย์กลางรับซื้อ – ขายข้าวเปลือกและผลิตข้าวสารที่ขึ้นชื่อ นั่นคือ ข้าวหอมมะลิ

ปัญหาคือ “สตึก” ตำบลสตึก อำเภอสตึกจังหวัดบุรีรัมย์ หมายถึงอะไร ? มีคุ้มบ้านประมงอยู่ติดแม่น้ำมูล เป็นชุมชนเก่าใกล้ตัวเมืองสตึก ลือชื่อทางหาปลาด้วยภูมิปัญญาด้วยเครื่องมือประดิษฐ์สารพัด ปัจจุบันคนอาศัยอยู่เป็นกลุ่มพูดภาษาลาว, ไทโคราช, เขมรและกวย ตามลำดับ ในอดีตเคยเป็นท่าเรือสำคัญแห่งหนึ่ง

คนท้องถิ่นส่วนใหญ่ยอมรับ ” สตึก ” เป็นคำเขมร บ้างสันนิษฐานว่ามาจาก ” สดบ ” กับ ” ตึก ” หมายถึงป่ารกใกล้น้ำ แต่จะไม่สรุปง่ายแบบนี้ ขอนำศัพท์มาพิจารณาประกอบดังนี้

สรฺตึง หมายถึง แม่น้ำ

สตึง หมายถึง ลำน้ำ

ตึ๊ก แปลว่า น้ำ

เคยสันนิษฐานว่าสรุกสตึง หรือสรุกตึ๊ก หมายถึง บ้านติดแม่น้ำ, ลำน้ำเมื่อเนิ่นนานไปคนเรียกรัวและกร่อนเสียง ในที่สุดจึงเรียกเป็น สตึก