 |
หน่วยที่ 6 การทำธุรกิจดิจิทัลบนสื่อสังคมออนไลน์
Digital marketing คือ การทำการตลาดรูปแบบหนึ่งโดยโปรโมทสินค้าหรือบริการผ่านทางสื่อดิจิทัล และสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เพื่อเพิ่มยอดขายโดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ ทางสื่อดิจิทัล ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อเหล่านี้ได้ง่าย และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา\n\nนอกจากนี้การตลาดดิจิทัลคืออีกทางเลือกหนึ่งของการสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นกับธุรกิจแบรนด์ใหม่ ทำให้การรับรู้ในวงกว้างไม่ใช่เรื่องที่ยากอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ในจำนวนมากได้โดยตรง ธุรกิจแบรนด์ใหม่จึงมีโอกาสที่จะเป็นที่รู้จัก และเติบโตได้อย่างรวดเร็วช่องทางต่างๆของการตลาดแบบดิจิทัล
Social Media Marketing
โซเชียลมีเดียจะเป็นตัวช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักและขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีขึ้นในเว็บไซต์ของ Google ซึ่งข้อดีของการทำการตลาดบนสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย คือ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย รวดเร็วทันใจ และช่วยในการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดการบอกต่อในหมู่มาก ได้อย่างง่ายดาย ช่องทางที่สามารถใช้ในการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ได้แก่
-
Facebook
-
Twitter
-
Instagram
-
Snapchat
-
Pinterest
-
Google+
-
LinkedIn
Content Marketing
เนื้อหากลายเป็นส่วนประกอบที่สำคัญสูงสุดสำหรับการผลิตสื่อออนไลน์ในยุคเทคโนโลยีปัจจุบัน จากคำกล่าวที่ว่า “Content is King” บ่งบอกได้ถึงคุณค่าของการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเว็บไซต์ให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นเช่นกัน โดยวิธีการสร้างและแจกจ่ายเนื้อหาที่มี “คุณค่า” ให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยมีจุดประสงค์ให้กลุ่มเป้าหมายกลับมาสร้างรายได้ให้เรา ช่องทางที่มีส่วนช่วยในการตลาดด้วยการใช้เนื้อหา ได้แก่
-
บล็อกโพสต์ (Blogs)
-
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์และบทความข้อเสนอแนะ
-
Infographics
-
โบรชัวร์ออนไลน์และลุคบุ๊ค
Search Engine Optimization
การใช้เนื้อหาในการทำการตลาดสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการค้นหาผ่านSEO ได้ และทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในหน้าของการค้นหาซึ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ ซึ่งช่องทางที่จะได้รับประโยชน์จากการค้นหา SEO ได้แก่
-
Websites
-
Blogs
-
Infographics
Search Engine Marketing
เป็นรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์บนหน้าแสดงผลการค้นหา (Search Result Page) อาทิ Google, Yahoo!, Bing, Baidu เป็นต้น โดยการทำโปรโมชั่นกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ใช้งาน Search Engine เพื่อให้รู้จักเว็บไซต์ สินค้า หรือบริการของคุณ และนำมาซึ่งยอดผู้ใช้เว็บไซต์และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการให้มากยิ่งขึ้นซึ่งใช้ PPC (Pay Per Click) ในการลงโฆษณาบนหน้าแสดงผลการค้นหา โดยที่คิดค่าใช้จ่ายจากการคลิกตัวข้อความโฆษณา แม้ว่าโฆษณาจะแสดงขึ้นมา แต่หากไม่มีการคลิกเกิดขึ้น ก็จะไม่เสียเงินในการลงโฆษณาแต่อย่างใด ระบบโฆษณาแบบPPCที่เป็นที่นิยมทั่วโลก ได้แก่
-
โฆษณาแบบชำระเงินบน Facebook
-
การโปรโมทผ่าน Twitter
-
ข้อความผ่าน LinkedIn
Affiliate Marketing
เป็นการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ตรูปแบบใหม่ โดยอาศัยตัวแทนโฆษณา, เซลล์แมน, ตัวแทนจำหน่าย, คนเชียร์สินค้า, รวมถึงผู้รีวิวสินค้า โดยได้รับผลตอบแทนในรูปแบบค่าคอมมิชชั่นจากเจ้าของสินค้าหรือบริการนั้นๆ ซึ่ง ณ ปัจจุบันใครๆก็สามารถเป็นผู้ช่วยขายสินค้าได้ เพราะการทำ Affiliate นั้นง่ายมาก เพียงแค่ช่วยโปรโมทสินค้าบนเว็บไซต์ หรือทาง Social Media ของตัวคุณเองเช่น
-
แชร์ผ่านFacebook, Instagram
-
แชร์โฆษณาวิดีโอผ่านทางYoutube
Email Marketing
ในยุคปัจจุบันบริษัทต่างๆได้ทำการตลาดผ่านทาง email เพื่อเป็นการแจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น หรือส่วนลดพิเศษแก่สมาชิกหรือลูกค้าของบริษัท ตลอดจนเป็นการนำผู้ใช้ email ไปยังเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งประเภทของ email ที่ส่งไปอาจเป็นการนำเสนอในรูปแบบ
-
email ข้อมูลข่าวสาร
-
email ติดตามผู้เข้าชมและดาวน์โหลดข่าวสารบนเว็บไซต์
-
email ต้อนรับลูกค้าใหม่
-
โปรโมชั่นวันหยุดสำหรับสมาชิก
Online PR
ประชาสัมพันธ์ออนไลน์ คือการติดต่อสื่อสารแบบสองทาง โดยนำเสนอข่าวสารได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ กราฟิก ผ่านทางบล็อกและเว็บไซต์ คล้ายกับการประชาสัมพันธ์แบบดั้งเดิม แต่ทำในพื้นที่ออนไลน์ เชื่อมโยงเครือข่ายทั่วโลกเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว แลกเปลี่ยนประสบการณ์ อย่างไร้พรมแดน ทุกสถานการณ์ ทุกเวลา ทุกสถานที่ ในช่วงเวลาพร้อมๆ กัน ได้แก่
-
รีวิวออนไลน์เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
-
ความคิดเห็นบนเว็บไซต์ส่วนตัวหรือบล็อก
ใครสามารถทำการตลาดแบบดิจิทัลได้บ้าง?
การตลาดดิจิทัล สามารถใช้ได้กับทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะขายสินค้าหรือบริการใด แต่การตลาดแบบดิจิทัลยังคงคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก เพื่อสามารถระบุความต้องการของผู้เข้าชมและสามารถสร้างเนื้อหาออนไลน์ที่มีคุณค่าให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจควรใช้กลยุทธ์การตลาดแบบดิจิทัลในลักษณะเดียวกันทั้งหมดการทำการตลาดแบบดิจิทัลสำหรับธุรกิจB2B (Business to Business) อาจไม่ได้รับความสนใจเท่ากับธุรกิจแบบ B2C (Business to Consumer) เนื่องจากตัวเลขสถิติต่างๆ และจำนวนผู้คนที่พูดถึงบนโลกออนไลน์นั้น ไม่ได้หวือหวาเท่ากับการทำการตลาดแบบB2C เพราะการทำการค้าแบบ B2B นั้น ด้วยจำนวนของลูกค้าไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไหร่นัก แต่หากลองเคาะตัวเลขให้ดีๆ แล้วจะพบว่าธุรกิจแบบ B2B มีมูลค่าในการซื้อขายต่อ 1 คำสั่งซื้อที่สูงมากหากธุรกิจของคุณเป็นแบบB2C หรือธุรกิจที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งการทำการตลาดแบบดิจิทัลสำหรับธุรกิจประเภท B2C นี้ ปัจจุบันมีข้อได้เปรียบอย่างมากมาย เนื่องจากเราสามารถใช้สื่อออนไลน์สื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรงผ่าน Social Media ของแบรนด์ เพื่อประกาศ พูดคุย และรับฟังผู้บริโภค เพื่อที่แบรนด์จะได้หาวิธีตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
ทำไมธุรกิจของคุณจึงต้องทำการตลาดแบบดิจิทัล?
การทำการตลาดแบบดิจิทัลไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถทำการโปรโมทสินค้าและบริการได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้บริการลูกค้าออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างดี การใช้การปฏิสัมพันธ์กับโซเชียลมีเดียช่วยให้แบรนด์ต่างๆได้รับการตอบรับเชิงบวกและเชิงลบจากลูกค้าได้โดยตรง ด้วยเหตุนี้การตลาดแบบดิจิทัลจึงเป็นประโยชน์สำหรับแบรนด์และธุรกิจต่างๆ โดยที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถโพสต์ความคิดเห็นผ่านทางแหล่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค บล็อกและเว็บไซต์เกี่ยวกับประสบการณ์การใช้สินค้าและบริการต่างๆ ถึงความพึงพอใจต่อแบรนด์นั้นๆได้ ซึ่งแตกต่างจากการทำการตลาดแบบดั้งเดิม หรือออฟไลน์แบบสิ้นเชิง\n\nหากคุณลงโฆษณาบนหนังสือพิมพ์คุณจะทราบได้อย่างไรว่ามีจำนวนผู้อ่านกี่คน คนที่อ่านเป็นใครบ้าง และเป็นคนจากภูมิภาคใด ในทางกลับกันการตลาดแบบดิจิทัลสามารถช่วยวัดและวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนนั้นได้ หากคุณยังไม่แน่ใจในการทำการตลาดแบบดิจิตอลว่าจะช่วยโปรโมทสินค้าหรือบริการคุณได้อย่างไร สามารถติดต่อเราเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมและเราสามารถช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณได้
เชื่อว่าหลายๆคน เคยคิดว่าการทำการตลาดออนไลน์ แค่เพียงเปิดเพจของแบรนด์ โปรโมทคอนเทนต์ให้เกิดไวรัสด้วยค่าโฆษณาแพงๆก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง การทำการตลาดออนไลน์มีรายละเอียดมากกว่าที่ใครๆคิด การไม่มีข้อมูลความรู้ด้าน Digital Marketing อย่างแท้จริง นั่นทำให้บางครั้งเสียเงินลงทุนไปกับสิ่งที่ไม่ได้ตรงความต้องการทั้งของคุณและลูกค้า ไม่มีการวัดผลเพื่อนำไปพัฒนากลยุทธ์ รวมถึงขาดปัจจัยอื่นๆ ที่จะทำให้คุณเติบโตในตลาดออนไลน์ จนส่งผลให้ธุรกิจคุณสูญเสียลูกค้าไปให้คู่แข่งที่มีความพร้อมมากกว่าได้ ซึ่งบทความนี้ทางทีมงาน STEPS ได้สรุปย่อ 5 ปัจจัยสำคัญของ Digital Marketing เป็นภาพรวมง่ายๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ รู้จักตนเอง (Goal & Brand) รู้จักลูกค้า (Customer) รู้จักตลาด (Channel) มีการวัดผลลัพธ์ (KPI) มีทีมที่ดี (Team)
1.รู้จักตนเอง (Goal & Brand)
2. รู้จักลูกค้า (Customer)
3.รู้จักตลาด (Channel)
4.มีการวัดผลลัพธ์ (KPI)
5.มีทีมที่ดี (Team)
|

นายวิโรจณ์ ทองเรือง
ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพสตึก

นางสาวจารุมาศ ยะบุญมี
ครูที่ปรึกษาโครงการ

นายผดุงศักดิ์ บุญยืน
ครูผู้สอนวิชาโครงกาi
สถิติผู้เข้าชม |